ได้ผลให้การออกมาจากโมมองลดวงจันทร์บางทีอาจช่วยทุเลาได้

โดย: วรรณวลี [IP: 10.0.0.xxx, 171.99.147.xxx]
เมื่อ: 2020-12-24 13:46:45
การเป็นนักบินอวกาศเป็นเยี่ยงไร

NASA ต้องหาแนวทางที่แยบคายสำหรับการทำให้นักบินอวกาศมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมของพระจันทร์ที่ไม่เป็นมิตรซึ่งจะฆ่าผู้ใดก็ได้ที่ไม่มีชุดเครื่องมือที่สมควรในทันทีทันใด แม้กระนั้นนอกเหนือจากนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีที่ทำให้นักบินอวกาศเคลื่อนได้ สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสามารถตรวจผิวพระจันทร์และก็งงงวยกับ“ ความรกรุงรังร้างอันสวยงาม” ของมัน

อยู่รอดรวมทั้งรุ่งโรจน์บนพระจันทร์ Pussy888

มีเหตุมีผลที่ดีที่พระจันทร์เป็นหินที่ไม่มีชีวิต สิ่งมีชีวิตอะไรก็ตามที่บากบั่นจะเอาชีวิตรอดบนผิวพระจันทร์จำเป็นจะต้องต่อกรกับอุณหภูมิในช่วงกลางวันที่สูงถึง 127 ° C แล้วก็ต่ำถึง -173 ° C ในช่วงกลางคืน พวกเขาจำเป็นที่จะต้องทำขึ้นเพื่อทนต่อรังสีอวกาศจากรังสีคอสมิกรวมทั้งเปลวสุริยะที่ทอดดีเอ็นเอ รวมทั้งพวกเขาไม่สามารถที่จะเป็นผู้หายใจหรือผู้กินน้ำได้อย่างไม่ต้องสงสัย น้ำบางส่วนที่อยู่ในนั้นถูกขังอยู่ในน้ำแข็งหรือหินแล้วก็ชั้นบรรยากาศบางๆนั้นไม่อาจจะระบายออกได้อย่างที่มันได้รับ

มนุษย์ชัดแจ้งมิได้ถูกทำขึ้นเพื่อพระจันทร์ แล้วนักบินอวกาศอะพอลโลรอดมาได้เช่นไร? คำเดียว: ความฉลาด โมมองลดวงจันทร์ที่ลงหยุดของนักบินอวกาศอพอลโลบนพระจันทร์เป็นยานอวกาศที่จริงจริงลำแรก นี่เป็นเนื่องจากไม่ราวกับครั้งก่อนที่ดำรงชีวิตการทำงานทั้งหมดทั้งปวงในที่ซึ่งไม่มีอากาศของอวกาศ มันคุ้มครองนักบินอวกาศจากรังสีและก็อุกกาบาตขนาดเล็กด้วยฟอยล์ฉนวนคุ้มครองป้องกันหลายชั้น รวมทั้งมันมีตัวถังที่แข็งแรงซึ่งทำมาจากแท่งอลูมินัมแข็ง

ส่วนที่น่าประทับใจที่สุดของการออกแบบเป็นระบบควบคุมสภาพแวดล้อม ด้วยเซ็นเซอร์รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพียงนิดหน่อยก็เลยปฏิบัติงานได้ราวกับเครื่องยนต์กลไกที่สลับซับซ้อน ระบบนี้ถ่ายออกสิเจนรวมทั้งน้ำจากถังนอกห้องโดยสาร แล้วหลังจากนั้นป้อนออกสิเจนเข้าไปในห้องโดยสารและก็ยังเพิ่มแรงกดดันตัวถังจัดแจงอุณหภูมิแล้วก็หาน้ำให้กับนักบินอวกาศ เป็นไปตามเจตนาแล้วก็จุดหมายทั้งปวงเส้นชีวิตของพวกเขาออกไปเรื่อย

นักบินอวกาศของอพอลโลบางทีอาจไม่มีอันตรายในโมมองลดวงจันทร์ แม้กระนั้นแน่ๆว่าพวกเขาป่วย ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับปรุงอาหารหรือซักผ้ารวมทั้งการชี้แจงเหตุการณ์ห้องอาบน้ำอย่างสุภาพเรียบร้อยนั้นเป็น "เบื้องต้น" ด้วยพื้นที่ใช้สอยเพียงแต่ 4.5 m มันก็แออัดคับแคบมากมาย นักบินอวกาศไม่มีที่จะนั่ง แล้วก็ถ้าเกิดจึงควรนอนก็จำเป็นต้องโหนเปลผ่านห้องโดยสารหรือหามุมว่าง



ได้ผลให้การออกมาจากโมมองลดวงจันทร์บางทีอาจช่วยทุเลาได้ สำหรับเพื่อการทำแบบนี้พวกเขาจำต้องระบายอากาศทั้งหมดทั้งปวงออกมาจากห้องโดยสารแล้วหลังจากนั้นคลานเท้าก่อนผ่านฟักและก็ลงบันไดกระทั่งสุดท้ายพวกเขาก็สัมผัสกับดินพระจันทร์

เมื่อพวกเขาระบายอากาศอย่างเดียวที่ช่วยพวกเขาจากความตายได้ก็คือหน่วยเขยื้อนนอกยานพาหนะซึ่งรู้จักกันดีในชื่อชุดอวกาศ ชุดพวกนี้ไม่เพียงแค่ แม้กระนั้นจะต้องรักษาชีวิตของนักบินอวกาศ แม้กระนั้นยังจำต้องให้ความคล่องตัวในระดับที่พอดีด้วย

การออกแบบชุดอวกาศมีหลายชั้น นักบินอวกาศใส่เสื้อชั้นในไนลอนระบายความร้อนด้วยน้ำ 12 ชั้นที่ทำมาจากผ้าฉาบเทฟลอนสีขาวไม่ติดไฟแล้วก็สิ่งของระดับสูงอื่นๆที่รับแรงกดรวมทั้งปกป้องความร้อนแล้วก็การครูดขีด การเคลื่อนไหวมีให้โดยข้อต่อยางที่สลับซับซ้อนที่ไหล่ศอกข้อมือบั้นท้ายข้อเท้าและก็เข่า แล้วก็ตัวเชื่อมโลหะช่วยทำให้นักบินอวกาศสามารถติดถุงมือแล้วก็หมวกกันน็อค Fishbowl ที่ปิดผนึกได้ยิ่งไปกว่านี้พวกเขายังใส่รองเท้าหุ้มส้นคุ้มครองปกป้องและก็กระเป๋าเป้ประคองชีวิตแบบนำพาที่มีออกสิเจนเครื่องไม้เครื่องมือกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้วก็น้ำหล่อเย็น

ถ้าหากพวกมันอยู่บนโลกนักบินอวกาศเกือบจะไม่อาจจะยืนขึ้นได้โดยทั้งยังชุดมีมวลโดยประมาณ 80 กก. แม้กระนั้นจะต้องขอบพระคุณแรงโน้มถ่วงที่อ่อนแอของพระจันทร์ทำให้ชุดสูทมีน้ำหนักไม่เกิน 14 กิโลบนผิวพระจันทร์ ฉะนั้นแม้ว่าจะมีรูปลักษณ์ที่มองเป็นไม้ แม้กระนั้นชุดอวกาศของอพอลโลก็ค่อยรวมทั้งยืดหยุ่นพอเพียงในการเดินบนพระจันทร์

ในความจริงนักบินอวกาศสามารถเดินบนพระจันทร์ได้ทีละหลายชั่วโมง ขณะที่อยู่ด้านนอกพวกเขาดำเนินงานหลายชนิดเพื่อทดลองความยืดหยุ่นของชุดอวกาศ พวกเขาเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างดินแล้วก็หินพระจันทร์ทดสอบการใช้งานปักธงตรวจสอบและก็ถ่ายรูปผิว ในระหว่างภารกิจ Apollo 14 ผู้บังคับบัญชา Alan Shepard ซึ่งมีชื่อเสียงกันดีว่าเป็นคนอเมริกันคนแรกที่เดินทางสู่อวกาศในปีพ. ศาสตราจารย์ 2504 แม้ว่าจะมีเวลาเล่นกอล์ฟน้อย

หน้าจอยทางจันทรคติ

ปัญหาใหญ่เป็นฟุตบาทบนดวงจันทร์พวกนี้มีเท่านั้นเอง: เดิน การสำรวจที่ จำกัด นี้เป็นระยะทางสั้นๆบริเวณจุดลงหยุด สิ่งที่เด่นชัดเร็วนี้ๆก็คือนักบินอวกาศกลุ่มนี้ปรารถนาการขนส่ง สามภารกิจในที่สุดที่ทำให้มนุษย์ลงหยุดบนพระจันทร์ - อพอลโล 15, 16 รวมทั้ง 17 - ได้มาในลักษณะของยาน Lunar Roving รถยนต์คันนี้มีชื่อเสียงกันดีในชื่อรถยนต์บั๊กกี้พระจันทร์

Moon buggies เป็นรถยนต์เคลื่อนสี่ล้อที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ขนาดเท่า Volkswagen Beetle พวกเขาใช้หน้าจอยสติ๊กรูปตัว T แทนพวงดอกไม้เพื่อไปไหนมาไหน ความเร็วสูงสุดที่ค่อนข้างจะช้าที่ 13 กิโลเมตร / ชั่วโมง มิได้หยุดการเดินทางไกลถึง 8 กม.จากจุดลงหยุดรวมทั้งครอบคลุมระยะทางรวม 88 กิโลในสามภารกิจ นักบินอวกาศใช้ยานตรวจพระจันทร์เก็บเนื้อเก็บตัวอย่างหินจากพื้นที่กว้างกว่าที่เคยทำเป็น สิ่งนี้ช่วยทำให้นักวิทยาศาสตร์รู้ๆกันอยู่ขึ้นเกี่ยวกับผิวของพระจันทร์


ชื่อผู้ตอบ: